ประวัติ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง จังหวัดพิจิตร ศิษย์เอกในองค์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
ประวัติพระเกจิอาจารย์

ประวัติ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง จังหวัดพิจิตร ศิษย์เอกในองค์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
ประวัติ ท่านชื่อพิธ นามสกุล ขมินทกูล เกิดที่บ้านบางเพียร หมู่ที่ ๔ ตำบลฆะมัง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เกิดเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคมพ.ศ. ๒๔๑๘ ตรงกับวันอังคารแรม ๕ คํ่าเดือน ๔ ปีกุน หลวงพ่อพิธ เป็นบุตรของขุนหิรัญสมบัติ(ประดิษฐ์ ขมินทกูล) มารดาชื่อปุย หลวงพ่อพิธ มีพี่น้องร่วมสายโลหิต เดียวกัน ๓ คน เป็นชาย ๑ คน หญิง ๒ คน คือ ๑. นายพิธ ขมินทกูล ๒. นางไพ ๓. นางพับ
หลวงพ่ออุปสมบทเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๐ อายุได้ ๒๒ ปี ณ พัทธสีมาวัดบึงตะโกน อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โดยมีพระครูธรรมทัสสีมุนีวงค์(เอี่ยม) เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรในขณะนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาวิจิตร วัดฆะมัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์พลอย วัดราชช้างขวัญ เป็นอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้วหลวงพ่อได้ไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้จะได้นำเอาความรู้ที่ได้มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า เท่าที่สอบถามพระอธิการทานขมินทกูล เจ้าอาวาสวัดฆะมังและนายปุย ขมินทกูล(น้องชายต่างมารดาของหลวงพ่อพิธ) เล่าว่าหลวงพ่อได้ไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ ดังนี้
๑. วัดใหญ่ วัดหลวงพ่อพุทธชินราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
๒. วัดบางมูลนาก อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร
๓. วัดท่าถนน ซึ่งเป็นวัดอยู่ในตลาดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์
๔. วัดหัวดง ตำบลหัวดง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตรโดยเฉพาะวัดหัวดงนี้หลวงพ่อจำพรรษาอยู่นานที่สุด
๕. วัดวังปราบ จังหวัดนครสวรรค์วัดนี้หลวงพ่อได้ฝึกวิชารักษาฝีในท้องกับพระอาจารย์สิน
๖. วัดบางคลาน อำเภอโพทะเล เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเงิน และได้เรียนวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อเงินตลอดจนความรู้ต่างๆ จนเป็นที่แตกฉานจึงได้มาจำพรรษา ณ วัดฆะมัง บ้านเกิดเมืองนอนของท่านนอกจากหลวงพ่อจะได้ศึกษาเล่าเรียนจากเกจิอาจารย์ต่างๆ แล้วหลวงพ่อยังได้เล่าเรียนวิชาความรู้เกี่ยวกับเวทมนต์คาถาจากปู่ของท่านอีกด้วย นับว่าหลวงพ่อเป็นผู้เสาะแสงหาความรู้อย่างแท้จริงหลวงพ่อเป็นพระที่มักน้อย ถือสันโดษ และไม่ยอมสะสมเงินทองจึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างถาวรวัตถุเพื่อบำรุงพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบต่อไป หลวงพ่อจึงได้สร้างอุโบสถถึง ๕ หลัง คือ
๑. วัดฆะมัง
๒. วัดดงป่าคำใต้ (วัดใหม่คำวัน)
๓. วัดบึงตะโกน
๔. วัดสามขา
๕. วัดหัวดง
หลวงพ่อมรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ณ วัดฆะมัง อำเภอเมือง พิจิตร รวมอายุได้ ๗๐ ปี จาการมรณภาพของหลวงพ่อ ทำความโศกเศร้าเสียใจให้แก่บรรดาญาติมิตรและศิษย์อย่างสุดซึ้งทั้งนี้เนื่องจากหลวงพ่อเป็นพระที่ถือสันโดษเคร่งครัดในธรรมวินัย ไม่ยอมสะสมเงินทองและมีเมตตาธรรมนั่นเองหลวงพ่อพิธ
ประวัติการหล่อรูปหลวงพ่อพิธ
หลังจากหลวงพ่อมรณภาพแล้ว บรรดาศิษย์ยานุศิษย์และญาติพี่น้องต่างก็คิดปรึกษาหารือกันว่าในขณะที่หลวงพ่อมีชีวิตอยู่นั้นได้เคยทำคุณงามความดีตลอดจนเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเงิน และมีวัตถุมงคลดียอดเยี่ยมปรากฏแก่ประชาชนโดยทั่วไป ถ้าไม่ทำอะไรไว้เป็นหลักฐานกาลต่อไปประชาชนอาจจะลืมได้จึงตกลงกันว่าควรจะหล่อรูปเท่าตัวจริงของหลวงพ่อไว้ เมื่อตกลงกันแล้วหลวงประจักษ์ หลานชายของหลวงพ่อ จึงเป็นผู้ดำเนินการหล่อโดยช่างที่กรุงเทพฯ ครั้นหลวงประจักษ์ดำเนินการเสร็จเรียบร้อย จึงส่งรูปหล่อมาวัดฆะมัง นายปุย ขมินทกูล น้องชายหลวงพ่อพิธเล่าว่ารูปหล่อของหลวงพ่อมาพักที่ตลาดบางมูลนาก บ้านหมอแดง(นายแพทย์พยุง กลันทะพันธ์)
ในขณะนั้นยังรับราชการอยู่ที่สถานีอนามัยอำเภอบางมูลนาก และมีคุณยายชุม พฤกษะวัน ได้จัดฉลองรูปหล่อให้หลังจากนั้นได้นำรูปหล่อของหลวงพ่อ ออกจากตลาดบางมูลนากโดยเรือสุโขทัย ขึ้นมาทางเหนือมาหยุดที่ตลาดบางไผ่ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนนมัสการได้เงินทำบุญมา ๓๐๐ บาท ต่อจากนั้นก็ออกเดินทางต่อจากตลาดบางไผ่ โดยเรือลำเดียวกันเมื่อได้มาถึงตะพานหินก็หยุดให้ประชาชนนมัสการอีกได้เงินทำบุญ ๓๐๐ บาท และเมื่อมาถึงตลาดหัวดงก็หยุดให้ประชาชนนมัสการอีก หลังจากนั้นก็นำมาไว้ที่วัดฆะมัง ตราบเท่าทุกวันนี้
ของดีหลวงพ่อพิธ
ในขณะที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไม่กี่อย่าง จากคำยืนยันของพระอธิการทานขมินทกูล ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อ ขณะนั้นอายุ ๖๑ ปี และนายปุย ขมินทกูล น้องชายต่างมารดาของหลวงพ่อยืนยันว่าในขณะที่หลวงพ่อมีชีวิตอยู่ได้สร้างวัตถุมงคล ดังนี้
๑. ตะกรุดมหารูด
๒. ขี้ผึ้ง
๓.รูปถ่ายหลวงพ่อพิธ ได้จัดทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ ด้านหลังมีรูปหลวงพ่อเงินพระอาจารย์ของท่าน ปิดด้วยกระจกทั้ง ๒ ด้าน รูปถ่ายนี้จัดทำ ๒ รุ่น รุ่นแรกเล็ก รุ่นสองใหญ่กว่า
วัตถุมงคลหลังจากหลวงพ่อมรณภาพแล้ว
๑. เหรียญใบเสมาพ.ศ. ๒๔๘๘รุ่นแรกสร้างขึ้นในสมัยท่านมีชีวิตอยู่ และได้มีการสร้างเหรียญรุ่นนี้ขึ้นมาอีกหลายครั้งแต่คนละพิมพ์ และหลังจากมรณภาพแล้วจึงได้จัดทำขึ้นมาอีก ๒ รุ่น
๒. เหรียญใบมะยมสร้าง๓แห่งคือ
- วัดหัวดง
- วัดดงป่าคำ
- วัดหนองลากฆ้อน รุ่นสุดท้าย
อภินิหารหลวงพ่อพิธ
อภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง เท่าที่ได้พยายามรวบรวมขึ้นมานั้น ได้มาจากคำบอกเล่าของพระอธิการทาน ขมินทกูล เจ้าอาวาสวัดฆะมัง ในขณะนั้น และนายปุย ขมินทกูล น้องชายต่างมารดาของหลวงพ่อพิธ และนายสนิท บุญปู่ ราษฎรตำบลฆะมัง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร แยกออกเป็นเรื่องย่อ ๆดังนี้
อภินิหารรูปถ่ายนายเชื่อม ชาวบ้านหัวดง ได้มาที่วัดและขอบูชารูปถ่ายของหลวงพ่อพิธไปไว้บูชาที่บ้านอยู่มาวันหนึ่ง เกิดไฟไหม้บ้าน ปรากฏว่าอย่างอื่นไหม้ไฟหมดคงเหลือแต่รูปถ่ายของหลวงพ่อพิธเท่านั้นที่ไฟไม่สามารถเผาให้ไหม้เป็นเถ้าถ่านได้ คงจะเป็นเพราะอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพิธอย่างแน่นอนซึ่งนับตั้งแต่นั้นมารูปถ่ายของท่านมีผู้ต้องการมากจนไม่พอจะจำหน่าย เพราะกิตติศัพท์เล่าลือในครั้งนี้หลังจากนั้นต่อมารูปถ่ายของหลวงพ่อพิธ เมื่อผู้ใดมีไว้เคารพบูชา บ้านนั้นจะไม่เกิดไฟไหม้เป็นอันขาดปัจจุบันนี้ผู้ใดมีไว้จะรักและหวงแหนอย่างมาก
ของหายก็ได้คืนพระอธิการทาน เล่าว่าประชาชนได้มาขอบูชาตะกรุดและรูปถ่ายของท่านไปประจำตัวโดยเฉพาะสมัยก่อนไม่ค่อยมีสายสร้อยขายมากมายเหมือนปัจจุบัน เมื่อประชาชนไปเที่ยวหรือไปไถนาก็นิยมพกพาเอาใส่ในกระเป๋าเสื้อ ปรากฏว่าตกหายกันเนืองๆ ตกหายแล้วผู้ที่ทำตกหายก็ยกมือบอกเล่าว่าขอให้ได้คืนเถิดปรากฏว่าหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว ชาวนานิยมจุดฟางข้าวมักจะพบรูปถ่ายหรือตะกรุดของท่าน วางอยู่ในกอหญ้า โดยไม่ไหม้ไฟแต่อย่างใด เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือต่อกันมารูปถ่ายของหลวงพ่อพิธนั้น ท่านจะทำเป็น ๒ หน้า ด้านแรกเป็นรูปของหลวงพ่อพิธ ด้านหลังจะมีรูปของ หลวงพ่อเงิน พระอาจารย์ของท่าน เล่ากันว่าหลวงพ่อพิธทำอะไรจะไม่ลืมหลวงพ่อเงินผู้เป็นพระอาจารย์เลยนับว่าหลวงพ่อพิธ เป็นลูกศิษย์ที่มีความเคารพนับถือ ครูบาอาจารย์อย่างยิ่งยวด
ลูกศิษย์ลองของนายสนิท บุญปู่ เล่าว่า หลังจากหลวงพ่อทำตะกรุดเสร็จแล้วหลวงพ่อก็แจกให้ลูกศิษย์คนละดอกไว้เป็นของใช้ประจำตัว เมื่อลูกศิษย์ได้ตะกรุดไปแล้ว ก็อยากจะรู้ว่าของหลวงพ่อดีอย่างไร จึงให้พวกตนมาใช้ จึงชวนกันลองตะกรุดโดยเอาตะกรุดของหลวงพ่อไปผูกคอไก่ แล้วก็เอาปืนลูกซองยิง ปรากฏว่ายิงกี่นัดก็ ไม่ดัง พวกลูกศิษย์เหล่านั้นมีความเชื่อถือหลวงพ่ออย่างมาก ปัจจุบันนี้ตะกรุดของหลวงพ่อจะหายากและราคาแพง อันเนื่องจากความคงกระพันชาตรีนี่เอง
วาจาศักดิ์สิทธิ์สืบเนื่องมาจากหลวงพ่อพิธเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเงิน แห่งวัดหิรัญญาราม(วังตะโก)หรือวัดบางคลาน อำเภอโพทะเล หลวงพ่อจึงมีมนต์ขลังประดุจดังอาจารย์ของท่าน มีเรื่องเล่าว่าถ้าใครถูกหลวงพ่อพิธสาปแช่ง จะต้องเป็นไปตามคำสาปแช่งของหลวงพ่อ เรื่องนี้จึงไม่ค่อยมีใครกล้าทำให้หลวงพ่อโกรธ เพราะกลัววาจาศักดิ์สิทธิ์ของท่าน
วัตถุมงคลกับอุปัทวเหตุ มีเรื่องเล่าว่าผู้ที่เดินทางเมื่อเกิดรถคว่ำหรือรถยนต์ชนกันจะแคล้วคลาดอันตรายทั้งปวง ผู้ที่มีของดีของหลวงพ่อพิธ จะไม่ได้รับอันตรายเลย บางครั้งเมื่อไปดูสถานที่ชนกันแล้ว ใครไปเห็นก็จะต้องบอกว่า ชนกันอย่างนี้ ไม่รอดแน่นอน แต่ปรากฏว่า ผู้ถูกชนไม่เป็นอะไรเลย เมื่อสอบถามแล้วปรากฏว่า ไม่มีอะไร นอกจากรูปถ่ายของท่านซึ่งทำเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ ด้านหลังมีรูปหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หรือบางคน ก็มีตะกรุดของหลวงพ่อพิธเท่านั้น
ตะกรุดหลวงพ่อพิธตะกรุดคงกระพันชาตรี วันหนึ่งหลวงพ่อพิธได้สั่งให้พระใหญ่ ไปขอแรงชาวบ้านมาช่วยกันยัดแพลูกบวบเมื่อได้รับคำสั่งพระใหญ่ ก็รีบไปทันที เมื่อกลับมาหลวงพ่อถามว่าไปขอแรงได้คนมากี่คน พระใหญ่ตอบว่าได้มา ๑๕คน หลวงพ่อจึงให้นายปุย ขมินทกูล น้องชายต่างมารดาไปซื้อทองเหลือง มา ๑๘ แผ่นเมื่อได้ทองเหลืองมาแล้วก็มอบให้นายสุ่ม ลงเลขยันต์หลังจากนายสุ่มจัดการเสร็จแล้วก็มามอบให้หลวงพ่อปลุกเสกตะกรุด ทั้ง ๑๘ ดอก เมื่อชาวบ้านที่ขอแรงมายัดแพลูกบวบเสร็จแล้ว หลวงพ่อก็แจกตะกรุดไปคนละ ๑ ดอกเป็นการตอบแทนนํ้าใจ เมื่อได้รับตะกรุดทุกคนก็อยากจะลองดีของดีหลวงพ่อ ต่างก็คว้ามีดเข้าฟันกันอุตลุด คมมีดหาได้ระคายผิวหนังไม่ เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ปัจจุบันตะกรุดของหลวงพ่อหายาก เพราะทุกคนจะรักและหวงแหนประดุจชีวิต
พระลองมีดเรื่องนี้นายปุย ขมินทกูล น้องชายต่างมารดา ของหลวงพ่อพิธเล่าให้ฟังว่า วันหนึ่งขณะที่พระภิกษุพุธ แสงสิงข์ กำลังลับมีดอยู่นั้นพระใหญ่ จิตตระกูล เดินผ่านมาก็ถามว่ามีดที่ท่านลับนั้นคมหรือยังพระพุธ แสงสิงข์ โกรธมากหาว่าพระใหญ่ ดูถูกตนไม่มีปัญญาลับมีดให้คม แต่ก็อดใจไว้ได้แต่พอพระใหญ่เดินมาจวนถึงตัวพระพุธจึงเอามีดฟันพระใหญ่ที่น่องปรากฏว่าขนขาดหลุดหมด แต่คมมีดไม่สามารถเข้าผิวหนังของพระใหญ่ได้เลย เหตุที่ไม่เข้าเพราะพระใหญ่ จิตตระกูลมีของดีของหลวงพ่อพิธนั่นเอง
ดวงตาไม่ไหม้ไฟพระอธิการทานเล่าว่า วันฌาปนกิจศพหลวงพ่อ หลังจากเผาศพเรียบร้อยแล้ว ก็มีการเก็บอัฐิ โดยมีพระอธิการทานเป็นผู้บังสุกุลและเก็บอัฐิเอง ในขณะนั้นได้มีนายเมอะ บ้านหัวดง เข้ามาจับกระดูกของหลวงพ่อได้ชิ้นหนึ่งแล้วรีบเอาใส่ปากเคี้ยวกลืนเข้าไปทันที เพราะเกรงว่าจะถูกแย่ง ทำความตกตะลึงให้กับผู้คนจำนวนมาก ขณะนั้นพระอธิการทานได้พบดวงตาข้างหนึ่งของหลวงพ่อไม่ไหม้ไฟ จึงเก็บส่งให้นายเขียว หลังจากนั้นก็เก็บอัฐิของหลวงพ่อใส่กระบุงมาตั้งไว้ที่ร้านตักบาตร เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือบรรดาศิษยานุศิษย์ ได้เก็บไว้บูชาในขณะนั้นนางพับ ได้พบดวงตาอีกข้างหนึ่งซึ่งยังไม่ไหม้ไฟ ทำความแปลกประหลาดมหัศจรรย์ให้แก่ผู้พบเห็นโดยทั่วกัน จึงเป็นที่เล่าลือกันทั่วไปว่า “หลวงพ่อพิธดวงตาวิเศษ”เป็นเรื่องที่แปลกที่สุดในโลกหลวงพ่อพิธ
ดวงตาทั้งสองข้างนั้น กาลต่อมาบรรดาศิษยานุศิษย์ และบรรดาญาติตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้หล่อรูปหลวงพ่อขนาดเท่าองค์จริง และได้นำดวงตาของหลวงพ่อพิธบรรจุที่รูปหล่อด้วย
ปัจจุบันรูปหล่อเท่าตัวจริงของหลวงพ่อพิธยังคงประดิษฐานอยู่ ณ วิหารวัดฆะมัง ถ้าท่านไปนมัสการรูปหล่อแล้วท่านจะแปลกใจอย่างมาก เพราะช่างได้หล่อได้เหมือนองค์ท่านจริงๆ เหมือนกับว่าหลวงพ่อพิธไปนั่งอยู่ แต่ดวงตานั้นเป็นดวงตาที่ใส่ใหม่ ไม่ได้เอาดวงตาของหลวงพ่อใส่ไว้กลัวคนอื่นจะมาลักไป
อภินิหารรูปหล่อหลวงพ่อรูปหล่อหลวงพ่อหลังจากได้สร้างแล้วก็ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถนานถึง๒๔ ปี บรรดาญาติโยมทั้งหลายต่างก็คิดกันว่า การเก็บไว้ในอุโบสถนั้น บางวันก็เปิดบางวันก็ปิดผู้ที่เคารพนับถือจะเข้าไปเคารพบูชาก็ยุ่งยากจึงได้ประชุมตกลงกันว่าควรจะสร้างวิหารให้อยู่ภายนอกเพื่อความสะดวกแก่ ผู้เคารพนับถือจึงได้สร้างวิหารขึ้นเมื่อได้จัดสร้างวิหารแล้วก็ได้อัญเชิญรูปหล่อของหลวงพ่อมาประดิษฐาน ณ วิหารหลังจากนำรูปหล่อมาไว้ที่วิหารแล้ว มีคนกรุงเทพฯคนหนึ่งมาช่วยในงานวันนี้อยากได้รูปของหลวงพ่อจึงถ่ายรูป ปรากฏว่าจะถ่ายสักกี่ครั้งไฟแฟลตไม่ยอมติด เมื่อหันกล้องออกนอกปรากฏว่าไฟแฟลตติดเมื่อปรากฎการณ์ดัง จึงคิดว่าควรจะเป็นเพราะไม่ได้ขออนุญาตหลวงพ่อเป็นแน่แท้จึงรีบจุดธูปบอกว่าอยากได้รูปของหลวงพ่อไว้สักการบูชาหลังจากนั้นจึงถ่ายรูปได้ ย่อมแสดงว่าใครทำอะไรโดยไม่ขออนุญาตหรือบอกเล่าหลวงพ่อไม่ยอมเด็ดขาด ถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพแล้วก็ตาม
น้อมเผยแผ่บูชา
ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญาฯ
ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : fb ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม
.....
พิธีมหาพุทธา-มังคลาภิเษก พระพุทธนฤมิตร รูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สบทบทุนการบูรณะกำแพงโบราณ และเพื่อสวัสดิการพระภิกษุสามเณรภายในพระอาราม วัดอรุณราชวราราม
คณะสงฆ์วัดอรุณราชวราราม โดย พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระพรหมวัชรเมธี ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม มอบหมายให้ พระเดชพระคุณ พระวชิรรัตนาภรณ์ ดร. (ชุมพร นิติสาโร) เจ้าคณะแขวงวัดอรุณ เลขานุการเจ้าคณะภาค ๙ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เลขานุการวัดอรุณราชวราราม
จัดสร้าง พระพุทธนฤมิตร และ รูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อสบทบทุนการบูรณะกำแพงโบราณรอบพระอาราม และเพื่อสวัสดิการพระภิกษุสามเณรภายในพระอาราม วัดอรุณราชวราราม
เมื่อวันเสาร์ ที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ณ มณฑลพิธีพระพุทธปรางค์ วัดอรุณราชวราราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เวลา ๑๗.๐๙ น. เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ ป.ธ.๙) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เมตตาเป็นประธานจุดเทียนชัย พิธีมหาพุทธา-มังคลาภิเษก พระพุทธนฤมิตร และ รูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช ป.ธ.๖) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เมตตาเป็นประธานดับเทียนชัย
รายนามพระเถราจารย์นั่งปรกอธิษฐานจิต
๑. เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
๒. เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี วัดไตรมิตรวิทยาราม กรุงเทพมหานคร
๓. พระเดชพระคุณ พระพรหมวัชรเมธี วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพมหานคร
๔. พระราชพัฒนากร (หลวงพ่อสมชาย) วัดปริวาสราชสงคราม กรุงเทพมหานคร
๕. พระราชภาวนาวชิราจารย์ วิ. (หลวงพ่อสุรศักดิ์ วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม
๖. พระราชวชิรวิทยานุสิฐ (หลวงพ่อวราห์) วัดโพธิ์ทอง กรุงเทพมหานคร
๗. พระราชสิริวัชรรังษี (หลวงพ่อชำนาญ) วัดชินวราราม จ.ปทุมธานี
๘. พระนันทวิริยาภรณ์ (หลวงพ่ออ่าง) วัดใหญ่สว่างอารมณ์ จ.นนทบุรี
๙. พระวชิรรัตนรังษี (หลวงพ่อสมบูรณ์) วัดหงส์รัตนาราม กรุงเทพมหานคร
๑๐. พระวชิรญาณ วิ. (ท่านพ่ออติโชติ) วัดพุทไธศวรรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา
๑๑. พระครูนิวิฐมณีวงศ์ (หลวงพ่อสะอาด) วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
๑๒. พระครูสุวรรณโชติวุฒิ (หลวงพ่อตี๋) วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
๑๓. พระครูอุดมภาวนาธิมุต (หลวงพ่อเพย) วัดบึง จ.พระนครศรีอยุธยา
๑๔. พระครูวิมลญาณอุดม (อาจารย์ติ๋ว) วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี
๑๕. พระครูโกวิทชัยกิจ (หลวงพ่อวิชัย) วัดหัวเด่น จ.ชัยนาท
๑๖. พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปญฺญาคโม วัดพุทธพรหมยาน จ.ฉะเชิงเทรา
๑๗. พระอาจารย์มหาวัฒน์ วิวฑฺฒนเมธี ป.ธ.๙ วัดหลวงพ่อสมปรารถนา จ.กาฬสินธุ์
ติดต่อสอบถามและร่วมบุญบูชาได้ที่ ศาลาอรุณนราภิรมย์ วัดอรุณราชวราราม
พระวชิรรัตนาภรณ์ ดร. โทร. 085-569-1616
พระครูพิสิฐสรวุฒิ โทร. 094-869-7225
พระมหาปิยะนัฐ ปิยรตโน โทร. 096-249-9929
ขอขอบคุณภาพ จาก : fb สังคมพระใหม่
จุก วัดแจ้ง รายงาน
.....
ความศักดิ์สิทธิ์ภายในพิธีมังคลาภิเษกเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี และพระผงของขวัญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดอรุณราชวราราม
งานพิธีมังคลาภิเษกเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี และพระผงของขวัญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี เนื่องในวาระครบรอบ ๒๕๕ ปีกรุงธนบุรี และพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระพรหมวชิรเมธี เจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม มีอายุวัฒนะมงคล ๘๐ ปี โดยประกอบพิธีภายในโบสถ์น้อย วัดอรุณราชวราราม เมื่อวันที่ ๑๗ ธ.ค ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา
ผมอาจารย์ไก่ ทิพยจักร ได้พาหมู่คณะเข้าร่วมพิธีมหามงคลอันศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ ซึ่งจากบรรยากาศและการสัมผัสกับกระแสความศักดิ์สิทธิ์จากภายในงานครั้งนี้ พบว่าคณะศิษย์แต่ละคนต่างเล่าถึงความรู้สึกจากภาายในงานต่างๆกัน บางท่านเล่าว่า เมื่อเข้ามาสู่ปริมณฑลพิธีก็รู้สึกถึงพลังงานที่อัดแน่น เป็นเหล่าเทพเทวาที่มาประชุมกัน จนรู้สึกสั่นน้อยๆ และอาการต่างๆอีกมาก
และอีกหลายท่านเล่าว่าขนลุก เกิดปีติ บางท่านรู้สึกถึงกระแสพลังงานจากเบื้องบนที่เชื่อมลงมาสู่ปริมณฑล อาการความสัมผัสทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นกับคนจำนวนมาก หนึ่งในงานวันนั้นผมเชิญอาจารย์อองตวนชาวฝรั่งเศษที่สนใจทางจิตศาสตร์ ท่านเล่าให้ฟังว่า ในขณะเริ่มพิธีในโบสถ์น้อย ท่านสัมผัสกระแสพลังงานดิ่งลงมาจากเบื้องบนเป็นพลังงานที่รุนแรงทรงพลังมากๆ ซึ่งทำให้เกิดอาการขนลุกสะท้านไปทั้งตัว
ส่วนตัวผมนั้นรู้สึกทางใจถึงเทพยดาที่ลงมาในงานและมาร่วมอนุโมทนา เป็นพลังงานที่แรงมาก ตั้งแต่ก่อนเริ่มพิธีจนจบพิธี ดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเสด็จลงมาแน่นอนพร้อมทั้งเหล่าทหารกล้าและบรรพบุรุษต่างมาร่วมอนุโมทนาในงานครั้งนี้และร่วมปลุกเสกแผ่พลังแห่งความกล้าหาญ ชัยชนะลงสู่มงคลวัตถุเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี และพระผงของขวัญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ผมถามในใจว่าวัตถุมงคลนี้จะดีด้านใด ก็ได้รับคำตอบว่าผู้ที่มีวัตถุมงคลรุ่นนี้จะไม่จน ไม่แพ้ จะมีพลังจิตพลังกายกล้าหาญ มีตบะอำนาจ ไม่หวั่นเกรงภยันอันตรายและไม่มีศัตรูหมู่มารภูติผีปีศาจใดๆมาทำร้ายมากล้ำกรายได้ จะเป็นผู้มีชัยชนะอยู่เหนืออุปสรรค อยู่เหนือความจน อยู่เหนือศัตรูคู่แข่งทั้งหลาย และตลอดที่อยู่บนแผ่นดินไทยจะร่มเย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายดีมีกำไรเสมอไป
นี่คือสิ่งที่ผมสื่อได้จากภายในวันงานและจากคำบอกเล่าประสบการณ์ของผู้ที่มาในวันนั้น จึงขอยืนยันด้วยความรู้สึกจากภายในตัวผมว่าวัตถุมงคลรุ่นมหาเศรษฐีที่จัดสร้างครั้งนี้ สมเด็จพ่อพระเจ้าตากสินมหาราชและทหารกล้าอีกทั้งบรรพบุรุษลงมาเสกประสิทธิด้วยพระองค์เองเป็นวัตถุมงคลที่เข้มขลังมาก ทรงพลังมาก มีอานุภาพมากเกินกว่าจะพรรณาได้ทั้งหมด ทั้งนี้ใครได้ไว้ถือเป็นบุญเป็นมหามงคลของชีวิตผู้นั้นโดยแท้
ท่านผู้ศรัทธาสามารถร่วมบุญบูชาได้ที่ ศาลาอรุณนราภิรมย์ วัดอรุณราชวราราม สอบถามประชาสัมพันธ์ คุณนพรัตน์ มงคลวิเชียร เบอร์ 064-815-5141 ไอดีไลน์ NOPPARUTNONG
ปล.กำหนดการแจกฟรี พระผงของขวัญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
1.สำหรับบุคคลทั่วไป กำหนดให้มีการแจกฟรีเพียงครั้งเดียว ณ พระอุโบสถน้อย วัดอรุณราชวราราม ในวันอาทิตย์ ที่ 17 ธันวาคม 2566 หลังเสร็จพิธีมหาพุทธาเทวาภิเษก
2.สำหรับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจากทั่วประเทศ ที่สนใจจะขอรับเป็นสื่อกลางในสะพานบุญครั้งนี้ ติดต่อที่ คุณนพรัตน์ มงคลวิเชียร เบอร์ 064-815-5141 ไอดีไลน์ NOPPARUTNONG
ทิพยจักร
18 ธค 2566
วัตถุมงคลเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
วัตถุประสงค์
1.เพื่อหารายได้เข้ากองทุนการศึกษาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดอรุณราชวราราม จำนวน 1,000,000 บาท
2.สร้างพระผงของขวัญแจกฟรีแก่ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทั่วประเทศ จำนวน 50,000 เหรียญ
รายการวัตถุมงคล เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
ลำดับที่ 1 เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขนาด 3.5 เซนติเมตร
1.1 เนื้อทองคำ น้ำหนัก 22 กรัม ขึ้น - ลง จำนวนการสร้าง 59 เหรียญ บูชาเหรียญละ 75,000 บาท (หมดแล้ว)
1.2 เนื้อเงิน จำนวนการสร้าง 800 เหรียญ บูชาเหรียญละ 2,000 บาท
1.3 เนื้อทองแดงหน้าเงินลงยา สร้าง 8 สี 1.ลงยาสีธงชาติ 2.ลงยาสีแดง 3.ลงยาสีเหลือง 4.ลงยาสีชมพู 5.ลงยาสีเขียว 6.ลงยาสีส้ม 7.ลงยาสีฟ้า 8.ลงยาสีม่วง จำนวนการสร้างสีละ 800 เหรียญ รวมสร้าง 6,400 เหรียญ บูชาเหรียญละ 400 บาท
1.4 เนื้อทองสัมฤทธิ์เดช จำนวนการสร้าง 6,000 เหรียญ บูชาเหรียญละ 300 บาท
1.5 เนื้อทองแดง จำนวนการสร้าง 10,000 เหรียญ บูชาเหรียญละ 200 บาท
ลำดับที่ 2 เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขนาด 2.5 เซนติเมตร
2.1 เนื้อทองคำ น้ำหนัก 10 กรัม ขึ้น - ลง จำนวนการสร้าง 59 เหรียญ บูชาเหรียญละ 38,000 บาท (หมดแล้ว)
2.2 เนื้อเงิน จำนวนการสร้าง 800 เหรียญ บูชาเหรียญละ 1,500 บาท
2.3 เนื้อทองแดงหน้าเงินลงยา สร้าง 8 สี 1.ลงยาสีธงชาติ 2.ลงยาสีแดง 3.ลงยาสีเหลือง 4.ลงยาสีชมพู 5.ลงยาสีเขียว 6.ลงยาสีส้ม 7.ลงยาสีฟ้า 8.ลงยาสีม่วง จำนวนการสร้างสีละ 800 เหรียญ รวมสร้าง 6,400 เหรียญ บูชาเหรียญละ 350 บาท
2.4 เนื้อทองสัมฤทธิ์เดช จำนวนการสร้าง 6,000 เหรียญ บูชาเหรียญละ 250 บาท
2.5 เนื้อทองแดง จำนวนการสร้าง 10,000 เหรียญ บูชาเหรียญละ 150 บาท
ลำดับที่ 3 เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื้อผงพุทธคุณ 108
3.1 ฝังตะกรุดทองคำ 1 คู่ จำนวนการสร้าง 300 เหรียญ บูชาเหรียญละ 1,500 บาท
3.2 ฝังตะกรุดเงิน 1 คู่ จำนวนการสร้าง 500 เหรียญ บูชาเหรียญละ 600 บาท
ลำดับที่ 4 เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ชุดกรรมการ จัดรวม 100 ชุด (หมายเลขเดียวกัน) บูชาชุดละ 12,500 บาท (หมดแล้ว)
(ชุดกรรมการ 1 ชุด ได้รับเหรียญทั้งหมด 24 เหรียญ ประกอบด้วย 4.1 เนื้อเงิน ทั้งขนาด 3.5 เซนติเมตร และขนาด 2.5 เซนติเมตร 4.2 เนื้อทองแดงหน้าเงินลงยา 8 สี ทั้งขนาด 3.5 เซนติเมตร และขนาด 2.5 เซนติเมตร 4.3 เนื้อทองสัมฤทธิ์เดช ทั้งขนาด 3.5 เซนติเมตร และขนาด 2.5 เซนติเมตร 4.4 เนื้อทองแดง ทั้งขนาด 3.5 เซนติเมตร และขนาด 2.5 เซนติเมตร 4.5 เนื้อผงพุทธคุณ 108 แบบฝังตะกรุดทองคำ และแบบฝังตะกรุดเงิน)
รายนามพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่มมหาเศรษฐี
1.พระพรหมวัชรเมธี เจ้าคณะภาค๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ
2.พระภาวนาวิสุทธิโสภณ (หลวงพ่อสุรศักดิ์) วัดประดู่ พระอารามหลวง สมุทรสงคราม
3.พระครูสุวรรณโชติวุฒิ (หลวงพ่อตี๋) วัดหูช้าง นนทบุรี
4.พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก) วัดท่าขนุน กาญจนบุรี
5.พระครูภาวนาภัทรคุณ (ท่านพ่ออติโชติ) วัดพุทไธสวรรย์ อยุธยา
6.พระครูยติธรรมานุยุต (หลวงพ่อแป๊ะ) วัดสว่างอารมณ์ นครปฐม
7.พระครูประภาสธรรมทัต (หลวงพ่อป้อม) วัดหนองม่วง ราชบุรี
8.พระปลัดอำพล ฐิตปุญฺโญ (หลวงพ่ออ๊อด) วัดหูช้าง นนทบุรี
9.พระครูสมุห์คำนวน ปริสุทฺโธ (หลวงพ่อนวล) วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม
10.พ่อครูศิริพงษ์ ครุพันธ์กิจ (เกจิฆราวาสผู้เรืองวิทยาคมที่มีความศรัทธาในพระองค์ท่านเป็นอย่างยิ่ง)
รายนามคณะกรรมการการจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่มมหาเศรษฐี
ประธานฝ่ายสงฆ์ การจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระพรหมวัชรเมธี เจ้าคุณะภาค๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม
ประธานที่ปรึกษาฝ่ายสงฆ์ การจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
พระวชิรรัตนาภรณ์ ดร. (ชุมพร) เลขาเจ้าคุณะภาค๙ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม
ประธานที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาส การจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
พ่อครูศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ
ประธานการจัดสร้าง เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
คุณอัครวิทย์ รัตนประสิทธิ์ (วิทย์ วัดอรุณ)
ประธานอุปถัมภ์ การจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
1.พลเอก ดร.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์
2.คุณวันชัย ลาภวิไลพงศ์ (โต วัดอรุณ) ประธาน กต.ตร สถานนีตำรวจนครบาลบางกอกใหญ่
3.คุณธนิตย์ ลี้ชัยศิริมงคล (เสี่ยบุ้ง) เจ้าของร้านทองซิงแสงนภาโกลด์ (SSNP GOLD)
รองประธานอุปถัมภ์ การจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
1.คุณณัฐกาญจน์ ทรัพย์โภค ฝ่ายประชาสัมพันธ์และแนะแนว คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี
ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ การจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
คุณยายสมใจ ณ นคร ประธานมูลนิธิ ณ นคร และสายสัมพันธ์
รองประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ การจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
คุณจารุวัตร จันทร์โพธิ์ศรี(อาจารย์ไก่ ทิพยจักร)
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ การจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
พลโท ชัยธัช สุวรรณกาญจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก
พลโท โกศล ชูใจ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
พลเรือโท ธัชพงศ์ บุษบง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพเรือ
ท่านพิทักษ์ อบสุวรรณ อัยการอาวุโส สำนักงานคดียาเสพติด
ท่านสุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9
ท่านชิติพัทธ์ คงมาก อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและการบังคับคดีจังหวัดราชบุรี
ท่านอาณัติ ศรีสุดดี อัยการจังหวัดชัยบาดาล
พันเอก(พิเศษ) มหินท์ ตุงคะเศรณี ผู้อำนวยการกองการศึกษา โรงเรียนทหารสารวัตร
พันเอก(พิเศษ) เสกสรรค์ พรหมศักดิ์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12
คุณณรงค์ วโรดมสถาน (ออด) กรรมการบริหารสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย)
คุณปริญญา แก้วตัน (ล้าน) กรรมการบริหารสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย)
คณะกรรมการจัดสร้างเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช รุ่นมหาเศรษฐี
พระครูพิสิฐสรวุฒิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม
พระครูพิสุทธิสรคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม
พระครูสมุห์ประครอง สุปติฏฺฐิโต วัดอรุณราชวราราม
พระมหาสุวิทย์ ปวิชฺชกิตฺติ วัดอรุณราชวราราม
พระมหากนกพล ธมฺมธีโร วัดอรุณราชวราราม
พระมหาณัฐนนท์ เขมานนฺโท วัดอรุณราชวราราม
พระมหาไตรภพ ติสฺสนาโค วัดอรุณราชวราราม
พระมหาหัสดี จรณธมฺโม วัดอรุณราชวราราม
พระครูปลัดธนันท์รัฐ โชติธมฺโม วัดประยุรวงศาวาส
คุณฉัตรชัย ทองสวัสดิ์
คุณสมบัติ ทองสวัสดิ์ ประธานชุมชนปรกอรุณ
คุณวรวิทย์ โชคขจิตสัมพันธ์ ประธานชุมชนลานมะขาม-บ้านหม้อ
คุณสมโภชน์ สูงโพธิ์ ประธานชุมชนข้างโรงเรียนพาณิชยการราชดำเนิน
คุณนพรัตน์ มงคลวิเชียร (แว่น วัดอรุณ)
คุณสมเกียรติ เสิศกาญจนาพร (หยอง วัดอรุณ)
คุณประพัฒน์ จันทร์วันเพ็ญ (แต๊บ วัดอรุณ)
คุณกฤษณะ เนาว์สถาน (นะ เมืองเพชร)
คุณกมล เล้าโสภาภิรมย์ (เตี้ย สวนทะเล)
คุณสรยุทธ์ จุลเจริญนนท์ (ป้อม punk berry)
คุณจันทร์ดาราอัปสร รัตนประสิทธิ์ (อาจารย์ฝนทิพย์)
คุณบัญชา ปานนิวัฒน์ (ป๋าชู วัดเศวต)
คุณสุชาดา ปานนิวัฒน์ (เจ้แป้น วัดเศวต)
คุณวิโรจน์ หอมหวาน (ทนายโรจน์ เพชรบุรี)
คุณมนตรี วิไลสมสกุล (ติ๊ก จันทบุรี)
คุณชลัช ชมเจริญ (กุ้ง ท่าพระจันทร์)