ประวัติพระเกจิอาจารย์
พระครูกิตตินนทคุณ หรือ หลวงพ่อกี๋ อดีตเจ้าอาวาสวัดหูช้าง ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังมากในอดีตของจังหวัดนนท์บุรี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สร้างตำนานปลัดขิกอันเลื่องชื่อ ปลัดขิกของท่านทุกวันนี้หาได้ยากอย่างยิ่ง
พระครูกิตตินนทคุณ หรือ หลวงพ่อกี๋ อดีตเจ้าอาวาสวัดหูช้าง ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังมากในอดีตของจังหวัดนนท์บุรี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สร้างตำนานปลัดขิกอันเลื่องชื่อ ปลัดขิกของท่านทุกวันนี้หาได้ยากอย่างยิ่ง
หลวงพ่อแป๊ะ ธัมมทินโน เจ้าอาวาสแคแถว ท่านเป็นหนึ่งในพระคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาคมในยุคนี้ที่ได้ร่วมปลุกเสก เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณ รุ่นแรก ปี58 และรุ่นกรุงธนบุรี ซึ่งเหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชชาววัดอรุณทั้งสองรุ่นนั้น เป็นเหรียญที่จัดสร้างขึ้นด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ปลุกเสกอย่างถูกต้องตามประเพณีโบราณทุกประการ
ครั้งหนึ่งได้หลบหนีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปซ่อนตัวอยู่โดยไม่มีอาหารตกถึงท้องเป็นเวลาถึง 3 วัน ทั้งอ่อนล้าหิวโหยเหลือสุดจะทน จนทำให้สำนึกได้ว่าที่ผ่านมาตนเองได้ดำเนินชีวิตผิดทางเสียแล้วทางสายนี้หากไม่กลับตัวกลับใจย่อมได้รับแต่ความทุกข์ ดังประสบอยู่ทรมานทั้งกายทรมานทั้งใจ เป็นการใช้ชีวิตที่ไร้ประโยชน์และแก่นสารโดยแท้ จึงตัดสินใจบวชเอาพระศาสนาเป็นที่พึ่ง
วิชาเข็มทองคนองฤทธิ์ เป็นวิชาที่ไม่ลี้ลับจนหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ หากผู้ได้รับการฝังเข็มทองแล้ว รู้จักรักษาศีล ไม่ประพฤติผิดข้อห้ามที่ครูบาอาจารย์ท่านกำหนดไว้ หมั่นเพียรภาวนาหัวใจของพระคาถา พุทโธ อยู่เสมอเป็นนิจ ท่านผู้นั้นจะสามารถเรียกเข็มทอง ให้ไปปรากฏตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ดังใจนึก
วิชาเข็มทองคนองฤทธิ์ เป็นวิขาที่เป็นภูมิปัญญาแห่งสยาม ที่อาจหาญกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าเป็นของจริง และพิสูจน์ที่ไหนเมื่อใหร่ก็ได้ ผู้ที่ได้รับการฝังเข็มทองคะนองฤทธิ์ หากหมั่นเพียรภาวนาหัวใจของพระคาถา พุทโธ อยู่เสมอเป็นนิจ ท่านผู้นั้นจะสามารถเรียกเข็มทอง ให้ไปปรากฏตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ดังใจนึก
วิชาเข็มทองที่กล่าวถึงอย่าเพิ่งคิดว่า เป็นการฝังเข็มเพื่อรักษาโรคอย่างชาวจีนโพ้นทะเล เขาทำกัน แต่เป็นวิชาไสยศาสตร์สาขาหนึ่ง ที่มีอานุภาพอเนกประการ ซึ่งก่อนจะสาธยาย ถึงรายละเอียดจะขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จัก ประวัติพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่ง แม้ว่าท่านจะ ละสังขารแล้วแต่เรื่องราวของท่าน เป็นตำนานสะท้านวงการไสยเวท สยามมาจนถึงปัจจุบัน พระเถระผู้ทรงอิทธิจิตรูปนั้นมีนามว่า หลวงปู่พิมพ์มาลัย แห่งวัดหุบมะกล่ำ ปรา
เป็นปณิธานอันแรงกล้าของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระธรรมรัตนดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค9 เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม ในแนวคิดที่จะให้วัดและพี่น้องประชาชนข้างวัดเป็นเนื้อเดียวกัน อยู่ร่วมกันแบบครอบครัว ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามทุกข์ยาก ซึ่งท่านได้ทำและได้พิสูจน์ถึงแนวคิดของท่านว่าสำผัสได้จริงในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งสร้างความทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสแก่พ่อแม่พี่น้องประชาชนอยู่ในขณะนี้
ใครจะคิดถึงว่าท่านพระภิกษุชราผู้ใจดีเปรี่ยมไปด้วยความเมตตารูปนั้น จะเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้มีความสำคัญในวงการพุทธศาสนาไทยในเวลานี้ เป็นหนึ่งในยี่สิบรูปของคณะสงฆ์ในคณะกรรมการมหาเถรสมาคมของประเทศไทย พระภิกษุชราผู้ใจดีเปรี่ยมล้นไปด้วยความเมตตารูปนี้ก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระธรรมรัตนดิลก กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๙ เจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม
ภาพแห่งประวัติศาสตร์ภาพนี้เป็นภาพเมื่อครั้ง พระพิมลธรรม(นาค สุมนฺนาโค) วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร(วัดแจ้ง) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมดิลก ร่วมประชุมสวดมนต์ถวายพระพรหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร ในอภิลักขิตกาลคล้ายวันประสูติพระชันษา ๗๑ ปี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์(หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน) เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๓
หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ ท่านเรียนได้วิชาไสยเวทย์จากครูบาอาจารย์หลายท่านดังนี้ วิชาทำตะกรุดโลกธาตุ ตะกรุดยันต์โสรฬมงคล ตะกรุดโภคทรัพย์ ตะกรุดมหาระงับปราบหงษา ตะกรุดมหาปราบ ไหมเบญจรงค์ 5 สี จากพระครูสุนทรธรรมกิจ(หลวงพ่อหยอด ชินวโส อดีตเจ้าอาวาสวัดแก้วเจริญ) วิชานะปัดตลอดจาก หลวงปู่จ่าง วัดเขื่อนเพชร จ.เพชรบุรี วิชาทำเบี้ยแก้จาก หลวงปู่เจือ ปิยสีโล วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม