ประวัติพระเกจิอาจารย์
ผงที่ได้จากการลบนั้น ท่านถือกันว่าเป็นของวิเศษยิ่งนัก มีพุทธคุณสูงมาก เล่ากันว่า เศรษฐีถึงกับเอาเรือแจวไปเป็นค่าครูเพื่อขอบูชาเอาผงวิเศษ ไปทำน้ำมนต์ประพรมของขาย กันเลยทีเดียว
ผงที่ได้จากการลบนั้น ท่านถือกันว่าเป็นของวิเศษยิ่งนัก มีพุทธคุณสูงมาก เล่ากันว่า เศรษฐีถึงกับเอาเรือแจวไปเป็นค่าครูเพื่อขอบูชาเอาผงวิเศษ ไปทำน้ำมนต์ประพรมของขาย กันเลยทีเดียว
หลวงปู่พัฒน์ได้รับสืบทอดวิชาจากหลวงปู่เทศ วัดสระทะเล ซึ่งเป็นทวดผ่านทาง หลวงปู่เดิม วัดหนองโพ หลวงปู่อิน วัดหางน้ำสาคร หลวงปู่หมึก วัดสระทะเล ซึ่งหลวงปู่พัฒน์ มีศักดิ์เป็นหลาน และหลวงปู่โหมด วัดโคกเดื่อ ต่อมาจึงได้ไปเรียนวิชาทางเมตตามหานิยมกับ หลวงปู่ชุบ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์
เมื่อหลวงปู่ทองได้ศึกษาจนมีความชำนาญดีแล้ว จึงได้เดินทางไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์พระอมตะเถราจารย์แห่งเมืองสมุทรสาคร นั่นก็คือหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงปู่ทองเล่าว่าการได้ไปเป็นศิษย์หลวงพ่อรุ่งนั้น ท่านได้เมตตาแนะนำสั่งสอนอบรมหลาย แต่ในทางพระเวทย์และพระยันต์ท่านได้เมตตาถ่ายทอดยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ของท่านให้ ใช้เรียกสูตรลบผง ลงตะกรุด ทำน้ำมนต์ล้วนมีพุทธคุณอธิษฐานใช้ได้สารพัดมงคลตามความปรารถนา
เมื่อไปถึงที่ประทับ หลวงพ่อได้เรียกเอาพานใส่เขี้ยวเสือจากเด็กชายป๊อดที่ถืออยู่ แต่พบว่าไม่มีเขี้ยวเสืออยู่ในพานแล้วโดยเด็กชายป๊อดบอกว่าเสือกระโดดลงน้ำระหว่างทางจนหมดแล้ว หลังจากหลวงพ่อปานทราบจึงได้ให้นำเอาดินเหนียวมาปั้นเป็นรูปหมู แล้วเสียบไม้แกว่งล่อเสือขึ้นมาจากน้ำต่อหน้าพระพักตร์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ซึ่งประทับทอดพระเนตรอยู่ตลอด จนถึงกับตรัสกับหลวงพ่อปานว่า "พอแล้วหลวงตา"
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อสมเด็จพระสังฆราช (แพ) นิมนต์ไปร่วมประกอบพิธีหล่อและพุทธาภิเษก “พระกริ่งสมเด็จ พระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์” ซึ่งมีพระคณาจารย์ชื่อดังหลายสิบรูปมาร่วมพิธีครั้งนี้ ปรากฏว่าแผ่นยันต์ที่หลวงพ่อพริ้งจารอักขระ และนำไปใส่ในเบ้าหลอมรวมกับของคณาจารย์รูปอื่นๆ ไม่ยอมหลอมละลาย
อยู่มาวันหนึ่ง ประมาณก่อนปี พ.ศ.๒๕๐๐ เล็กน้อย หลังจากหลวงปู่ดู่สวดมนต์ทำวัตรเย็น และปฏิบัติกิจส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็จำวัด เกิดนิมิตไปว่า ได้ฉันดาวที่มีแสงสว่างมาก ๓ ดวง ในขณะที่กำลังฉันอยู่นั้นก็รู้สึกกรอบ ๆ ดี ก็เลยฉันเข้าไปทั้งหมด แล้วจึงตกใจตื่น เมื่อท่านพิจารณาใคร่ครวญถึงนิมิตธรรมที่เกิดขึ้น ก็เกิดความเข้าใจขึ้นว่าแก้ว ๓ ดวงนั้น ก็คือพระไตรสรณาคมน์นั่นเอง พอท่านว่า “พุทธัง สรณั
เมื่อข้าพเจ้าไปอุปัฏฐากหลวงพ่อแล้ว มีชาวบ้านชาววัดมาขอให้หลวงพ่อลงกระหม่อมบ้าง ลงตะกรุดพิสมรบ้าง โดยยื่นแผ่นเงิน ทอง นาก ให้ลงคาถา บางคนขอเมตตา บางคนขอการค้าขาย หลวงพ่อให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ลง
หลวงพ่อได้เรียนวิชาทำมีดหมอ , ตะกรุด และแหวนแขน เรื่องแหวนแขนนี้ หลวงพ่อเดิมทำเป็นและเก่งด้วยกับหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว นั้นชอบพอกัน ยังเคยพบรูปถ่ายหลวงพ่อกันที่กุฏิหลวงพ่อ ศิษย์ร่วมอาจารย์ที่โด่งดัง คือ หลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู อ.บรรพตพิสัย
วัตถุมงคลหลวงพ่อเกิด ปุณณปัญโญ วัดสะพาน จัดสร้างเป็นรุ่นแรก คือ เหรียญหลวงพ่อเกิด พิมพ์หน้าแก่ จัดสร้างเมื่อวันเสาร์ที่ 11 เมษายน 2479 เป็นเหรียญรูปไข่ มีทั้งเนื้อทองแดง และอัลปาก้า ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเกิดครึ่งองค์ ลักษณะแก้มตอบ มีรอยย่นบนหน้าผาก 2 เส้นชัดเจน ขอบเหรียญมีเม็ดไข่ปลา ขอบด้านล่างมีลายตะขอคู่ ด้านล่างเป็นตัวหนังสือโค้งเขียนว่า "พระอุปัชณาย์เกิด วัดสะพาน"
เมื่อรับสั่งถามถึงอาการของโรคเป็นที่เข้าพระทัยแล้ว รับสั่งว่า “เคยเห็นกรมพระยาปวเรศฯ เสด็จพระอุปัชฌาย์ของพระองค์อาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์แล้วให้คนไข้เป็นอหิวาตกโรคกินหายเป็นปกติ พระองค์จึงรับสั่งให้มหาดเล็กที่ตามเสด็จไปนำพระกริ่งที่วัดบวรนิเวศ แต่สมเด็จฯ ทูลว่าพระกริ่งที่กุฎิมี สมเด็จพระมหาสมณเจ้าจึงรับสั่งให้นำมาแล้วอาราธนาพระกริ่งแช่น้ำอธิษฐาน ขอน้ำพระพุทธมนต์แล้วนำไปถว